เมื่อกล่าวถึงคำว่า พลาสติก ทุกคนอาจจะเคยได้ยินมาแล้วว่าพลาสติกเป็นส่วนประกอบของอุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ ในชีวิตประจำวันของเรา และพลาสติกมีแนวโน้มที่จะทำการผลิตมากขึ้นในปัจจุบันเนื่องจากมีราคาถูก น้ำหนักเบา หาได้ง่ายในปัจจุบัน และด้วยอุตสาหกรรมที่มีความก้าวหน้าทั้งกำลังคนที่มากขึ้นและเครื่องจักรที่มีความทันสมัย ทำให้พลาสติกเป็นที่ยอมรับและนิยมมากขึ้นนั้นเอง
พลาสติกคืออะไร ？
เป็นสารประกอบอินทรีย์ที่สังเคราะห์ขึ้นใช้แทนวัสดุธรรมชาติ บางชนิดเมื่อเย็นก็แข็งตัว เมื่อถูกความร้อนก็อ่อนตัว บางชนิดแข็งตัวถาวร มีหลายชนิด เช่น ไนลอน ยางเทียม ใช้ทำสิ่งต่าง ๆ เช่น เสื้อผ้า ฟิล์ม ภาชนะ ส่วนประกอบของยานพาหนะ พลาสติกจัดเป็นสารประกอบพวกไฮโดรคาร์บอนที่มีน้ำหนักโมเลกุลสูง ประกอบด้วยโมเลกุลซ้ำๆ กันต่อกันเป็นโมเลกุลสายยาวๆ ประกอบด้วยธาตุสำคัญ คือ คาร์บอน, ไฮโดรเจน, และออกซิเจน นอกจากนี้อาจมีธาตุอื่นๆเป็นส่วนประกอบย่อย ซึ่งได้แก่ ไนโตรเจน, ฟลูออรีน, คลอรีน, และกำมะถัน เป็นต้น
แต่เราอาจจะยังไม่คุ้นเคยกับพลาสติกที่ใช้ในอุตสาหกรรม เป็นพลาสติกที่มีประสิทธิภาพในการใช้งานค่อนข้างสูงเลยทีเดียว อาทิเช่น PEEK และ PEI
PEEK คืออะไร？
พลาสติก พีค ( PEEK ) / Polyether ether ketone เป็นพลาสติกวิศวกรรมที่มีคุณสมบัติดีเยี่ยมที่สุดในบรรดาพลาสติกวิศวกรรมเพราะทนอุณหภูมิได้ถึง 310°c มีความแข็งแรงเชิงกลดีเยี่ยม มีความแข็งเหนียว ทนต่อแรงบิด ทนต่อสารเคมีและรังสีได้ดี มีคุณสมบัติความเป็นฉนวน มีราคาสูงมาก
คุณสมบัติของพีค แผ่น-แท่ง ( PEEK Sheet & PEEK Rod)
ความแข็ง PEEK (พีค) ประมาณ 88 Shore D
สามารถใช้ในอุณหภูมิต่อเนื่อง -60 °c ถึง + 250°c
สามารถใช้ในอุณหภูมิระยะสั้นๆ ได้ถึง 310 ?c
อุณหภูมิที่ทำให้โก่งแอ่นตัวคือ 152องศา
สามารถทนต่อสารเคมีได้ดี
เป็นฉนวนไฟฟ้า รังสี
ลักษณะการใช้งาน PEEK (พีค)
กลึง-มิลลิ่ง เป็นอะไหล่เครื่องจักร และ ชิ้นส่วนอุตสาหกรรม ลูกปืน เฟือง แหวนลูกสูบ ชิ้นส่วนวาล์ว Screw งานLabเคมีในห้องทดลอง ชิ้นส่วนงานเตาอบ เหมาะกับงานอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิคส์
PEI คืออะไร ？
PEI เป็นพลาสติกวิศวกรรมที่ทำจาก polyetherimide ที่ไม่เป็นรูปแบบ มันมีความต้านทานอุณหภูมิที่ดีที่สุดและความมั่นคงมิติเช่นเดียวกับความต้านทานต่อสารเคมีทนไฟคุณสมบัติทางไฟฟ้ามีความแข็งแรงสูงมีความแข็งแรงสูง ฯลฯ PEI เรซินสามารถนำมาใช้กันอย่างแพร่หลาย การใช้ขั้วไฟฟ้าอุณหภูมิสูงฐาน IC อุปกรณ์แสงสว่างแผงวงจรไฟฟ้าอุปกรณ์การจัดการของเหลวชิ้นส่วนภายในเครื่องบินอุปกรณ์ทางการแพทย์และเครื่องใช้ในครัวเรือน
คุณสมบัติของ PEI / polyetherimide
ความทนทานต่ออุณหภูมิสูง (HDT สูงกว่า 200 องศาเซลเซียสอุณหภูมิในการใช้งานที่ต่อเนื่องของ UL สูงกว่า 170 ° C) (ดัชนีออกซิเจนสูงกว่า 7, ควันต่ำและ UL94V-0 / 5V)
ไม่จำเป็นต้องเพิ่มสารหน่วงไฟ (ค่าคงที่ dielectric คงที่และการสูญเสียอิเล็กทริกและความเป็นฉนวนสูงในช่วงกว้างของความถี่และอุณหภูมิ)
สารเคมีที่ดีเยี่ยมและความต้านทานรังสี
ความแข็งแรงที่ไม่ซ้ำกันและความแข็งแกร่ง
โปร่งใส
ลักษณะการใช้งาน PEI
Polyetherimides สามารถฉีดขึ้นรูปและอัดขึ้นรูปได้ง่ายและสามารถยึดติดกับวัสดุอื่น ๆ ได้โดยใช้กาวและวิธีการบัดกรีต่างๆ เนื่องจากความสามารถในการหลอมละลายได้ดีจึงสามารถผลิตชิ้นส่วนที่มีรูปร่างซับซ้อนได้โดยการฉีดขึ้นรูป ต้องแห้งสนิทที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 4 ชั่วโมงก่อนแปรรูปอุณหภูมิในการฉีดคือ 337 ~ 427 องศาเซลเซียสและอุณหภูมิแม่พิมพ์ 80 ~ 180 องศาเซลเซียส เงื่อนไขในการฉีดมีดังนี้อุณหภูมิเบื้องต้น 150 ° C 4-7 ชั่วโมงอุณหภูมิตลับ: ส่วนด้านหน้า 300 ~ 320 ° C ส่วนด้านหลัง 330 ~ 410 ° C ความดันการฉีด 60 ~ 100MPa เวลาในการถือครอง 5 ~ 30 วินาทีระยะเวลาในการทำความเย็น 5 ~ 30 วินาที
สำหรับอุตสาหกรรมพลาสติกในประเทศไทย
เริ่มมีมาตั้งแต่ประมาณ พ.ศ. 2500 ต่อมาปี 2506 มีการก่อตั้งโรงงานอุตสาหกรรมผลิต “ผลิตภัณฑ์พลาสติกขนาดใหญ่ขึ้น แต่ยังคงต้องนำเข้าเรซินจากต่างประเทศเช่นกัน ต่อมา ปี 2514 ไทยสามารถผลิต PVC ได้เองเป็นชนิดแรก