งานกลึงในอุตสาหกรรมมีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากเป็นกระบวนการที่สำคัญในการผลิตชิ้นงานที่มีความซับซ้อนและทันสมัย ซึ่งการเพิ่มประสิทธิภาพในงานกลึงมีความสำคัญมากเพราะสามารถช่วยเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน และเพิ่มคุณภาพของชิ้นงานที่ผลิต
งานกลึง
คือ กระบวนการผลิตแบบแยกส่วน (Subtractive Manufacturing) ที่ใช้เครื่องมือที่เรียกว่าเครื่องกลึง (Lathe) ในการตัดวัสดุส่วนเกินออกจากชิ้นงานเพื่อให้ได้รูปทรงและขนาดที่ต้องการ เป็นส่วนงานค่อนข้างมีเนื้องานที่ซับซ้อนจึ้งที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญในการทำงานและต้องใช้ทักษะของช่างกลึง รวมทั้งการเลือกใช้วัสดุให้เหมาะสมกับประเภทงานหรือชิ้นงาน
ประเภทของงานกลึง
- งานกลึงแนวตั้ง (Turning) – การตัดชิ้นงานในแนวนอน โดยที่เครื่องมือตัดเคลื่อนที่ตามแนวแกน X และ Z เพื่อสร้างรูปทรงกระบอกหรือรูปทรงที่หมุนได้
- งานกลึงแนวตั้ง (Facing) – การตัดชิ้นงานในแนวตั้ง โดยที่เครื่องมือตัดเคลื่อนที่ตามแนวแกน X และ Y เพื่อสร้างผิวหน้าเรียบ
- งานกลึงเกลียว (Threading) – การตัดชิ้นงานเพื่อสร้างเกลียวบนพื้นผิวของชิ้นงาน
- งานกลึงรู (Boring) – การขยายขนาดของรูที่มีอยู่แล้วในชิ้นงานให้ใหญ่ขึ้น
- งานกลึงโปรไฟล์ (Profiling) – การตัดชิ้นงานเพื่อสร้างรูปทรงที่ซับซ้อนตามแบบที่กำหนด
4 ข้อเพิ่มประสิทธิภาพงานกลึง
- เลือกใช้เครื่องมือตัดและตั้งค่าการทำงานที่เหมาะสม
เครื่องมือตัดที่เหมาะสมนั้นสำคัญอย่างมากสำหรับงานกลึง นอกจากนั้นการปรับค่าความเร็วรอบให้เหมาะสมก็มีความสำคัญเช่นกัน ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้งานกลึง และลดโอกาสในการเกิดข้อผิดพลาดระหว่างทำงานอีกด้วย
- งานกลึงโลหะ – เครื่องมือตัดที่มีความทนทานและความแม่นยำสูง เช่น เครื่องมือตัดแบบคาร์ไบด์ (Carbide Inserts) หรือ PCD Inserts (Polycrystalline Diamond Inserts)
- งานกลึงไม้ – เครื่องมือตัดที่มีความคมชัดและเลื่อนไหลตามรูปทรงของชิ้นงาน โดยมีเครื่องมือตัดที่มีลำตัวยาวและคมชัด
- งานกลึงพลาสติก – เครื่องมือตัดที่มีความคมชัดและไม่ทำให้เกิดรอยขีดข่วนบนพื้นผิวของชิ้นงาน
- งานกลึงอลูมิเนียม – เครื่องมือตัดที่มีความคงทนสูงและสามารถตัดอลูมิเนียมได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น เครื่องมือตัดทำจากคาร์ไบด์
- การใช้น้ำหล่อเย็น ระบายความร้อน
การใช้น้ำหล่อเย็น (High pressure coolant) ในงานกลึงเพื่อช่วยลดอุณหภูมิในการทำงาน โดยจะกระจายน้ำหล่อเย็นเพื่อทำความเย็นในระหว่างกระบวนการกลึง เพื่อจะช่วยลดการสึกหรอของชิ้นงานและเครื่องมือตัด นอกจากน้ำหล่อเย็นแล้วการใช้สารเคมีเย็นเป็นหนึ่งตัวเลือกในกระบวนการนี้ แต่อาจจะมีผลกระทบจากสารเคมีต่อชิ้นงาน จึงควรเลือกใช้กัวัสดุและประเทภงานที่เหมาะสม
- การใช้เทคโนโลยี CAD/CAM
เทคโนโลยี CAD/CAM (Computer-Aided Design/Computer-Aided Manufacturing) เป็นเทคโนโลยีที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการออกแบบสิ่งของและผลิตสิ่งของในกระบวนการผลิต เมื่อนำมาใช้กับงานกลึงทำให้เพิ่มประสิทธิภาพได้อย่างมาก
- ออกแบบโดยใช้ CAD (Computer-Aided Design) ที่สามารถสร้างรายละเอียดของชิ้นงานได้อย่างแม่นยำและเหมาะสมกับความต้องการของงาน
- ใช้โปรแกรม CAM (Computer-Aided Manufacturing) กำหนดเส้นทางการกลึงและคำนวณการเคลื่อนที่ของเครื่องกลึงให้อัตโนมัติด้วยโปรแกรมการกลึง (G-code) จากการออกแบบ CAD
อีกทั้งสามารถบันทึกข้อมูลการกลึงและการตั้งค่าเครื่องกลึงไว้ในระบบ CAD/CAM เพื่อให้ง่ายต่อการเรียกดูและการใช้งานในอนาคต
- การพัฒนาบุคคลากร
เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างทักษะและความเชี่ยวชาญของพนักงานที่ปฏิบัติงาน โดยพนักงานต้องได้รับความรู้และทักษะใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานกลึงอย่างต่อเนื่อง เช่น การสร้างคอร์สอบรมเกี่ยวกับการใช้งานเครื่องกลึง CNC หรือการทำแบบ 3D ในซอฟต์แวร์ CAD/CAM เป็นต้น อีกทั้งสามารถสร้างพนักงานที่มีความชำนาญเป้นพนักงานต้นแบบ เพื่อให้ความช่วยเหลือในการฝึกอบรมพนักงานคนอื่น ๆ รวมทั้งการสอนทักษะพิเศษหรือเทคนิคที่เป็นประโยชน์ต่องานกลึง รวมทั้งต้องมีการติดตามผลการทำงานของพนักงานและให้คำแนะนำเพื่อช่วยให้พวกเขาพัฒนาทักษะ และประสิทธิภาพในการทำงานในงานกลึงอย่างต่อเนื่อ
หวังว่ากลยุทธ์เหล่านี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในงานกลึง ทำให้ได้ชิ้นงานที่มีคุณภาพสูงขึ้น และลดต้นทุนในการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในงานอุตสาหกรรมมนุษย์ เครื่องจักร และเทคโนโลยีต้องทำงานรวมกันอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อพัฒนาคุณภาพของงานให้มีมาตรฐานที่ดีที่สุด
หากผู้ประกอบการที่ต้องการสั่งผลิตเครื่องจักร แม่พิมพ์ หรือเครื่องมือทางวิศวกรรม สหพรทูลพร้อมให้คำปรึกษาและคำแนะนำด้วยประสบการณ์ด้านการผลิตชิ้นงานมามากกว่า 42 ปี ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อที่เว็บไซต์ http://sahaporntool.com หรือโทร 083-495-4402 หจก.สหพรทูล ผู้นำในการผลิตชิ้นส่วนอุตสาหกรรมที่มีความละเอียด แม่นยำและคุณภาพสูงตรงตามความต้องการของลูกค้า